top of page
ค้นหา
  • jackkie101

วิธีเก็บเมล็ดกาแฟคั่ว


ถึงแม้ว่าเมล็ดกาแฟที่ซื้อมา จะคั่วมาสดใหม่แค่ไหน.. ก็ต้องทำการเก็บรักษาคุณภาพ เพื่อรักษาความสดใหม่ มีกลิ่นหอม คงรสชาติดังเดิม ไม่ให้เสื่อมลงไปตามสภาพแวดล้อมต่างๆด้านนอก วันนี้ POUR OVER LAB จึงนำวิธี เก็บรักษาเมล็ดกาแฟคั่วให้อร่อยนานๆ มาแบ่งปันเพื่อนๆทุกคนค่า


อย่างที่รู้กันเมล็ดกาแฟจะมีระดับการคั่วกาแฟถึง 3 ระดับ แต่ละระดับก็จะให้กลิ่น รสชาติที่ต่างกันออกไป และเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วแล้วโดยเฉพาะการคั่วกลาง คั่วเข้ม จะมีน้ำมันที่เคลือบผิวเมล็ดกาแฟอยู่ จึงทำให้เกิดปฏิกิริยากับสภาพอากาศได้ง่าย ยิ่งกับเมล็ดกาแฟที่คั่วเสร็จใหม่ ๆ จึงต้องระวังอย่างยิ่งในการจัดเก็บ


เมล็ดกาแฟเสื่อมสภาพ โดยหลัก ๆ แล้วเกิดจากปัจจัยอย่าง ความร้อน และความชื้น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งควบคุมได้ยากหรือไม่สามารถควบคุมได้นั่นเอง ถือเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่จะทำให้เมล็ดกาแฟมีกลิ่นเหม็นหืน กลิ่นหอมของกาแฟลดลง ความเข้มข้นของรสชาติจืดจางลง ฉะนั้นแล้วจึงควรจัดเก็บเมล็ดกาแฟไว้ในที่ไม่มีแสงแดด ไม่มีความชื้น และที่สำคัญคือไม่ควรนำไปวางรวมกับสิ่งของอื่น ๆ ที่มีกลิ่น เพราะเมล็ดกาแฟจะดูดซับกลิ่นต่าง ๆ


1. เลือกภาชนะที่ควรใช้ในการจัดเก็บเมล็ดกาแฟคั่ว

  • ภาชนะที่เป็นถุงฟอยล์ มีซิปล็อกปิดสนิท การบรรจุในถุงฟอยด์ที่ปิดสนิท จะช่วยป้องกันไม่ให้อากาศภายนอกเข้าไปในภายในถุง และเพื่อไม่ให้เมล็ดกาแฟดูดซับกลิ่นอื่น ๆ

  • ภาชนะต้องแห้งสนิท ไม่มีความชื้น ต้องเลือกใช้ภาชนะที่แห้ง ไม่มีไอน้ำเกาะ หากพึ่งล้างทำความสะอาดเสร็จก้ควรใช้ผ้าแห้งซับน้ำออกจนหมด เพราะหากภาชนะที่ใส่เมล็ดกาแฟมีความชื้น จะทำให้เมล็ดกาแฟเกิดกลิ่นเหม็นหืนได้ง่าย เมื่อนำไปชงก็จะได้รสชาติ และกลิ่นที่เปลี่ยนไปจากเดิม

  • ภาชนะเป็นขวดแก้วทึบแสง มีฝาซีลปิดสนิท เมล็ดกาแฟหากโดนแสงแดด หรืออากาศมากเกินไปจะทำให้มีกลิ่นจางหาย รสชาติจืดจางลงได้ หรือเสื่อมสภาพได้เร็ว ดังนั้นควรเลือกขวดที่ทึบสนิท จะช่วยป้องกันไม่ให้เมล็ดกาแฟโดนแสงแดดโดยตรง โหลแก้วทึบแสงจะช่วยป้องกันอากาศ หรือแสงแดดได้ดี เพราะหากใช้โหลพลาสติกเมล็ดกาแฟอาจดูดกลิ่นของพลาสติกทำให้เสียรสชาติได้ หรือสำหรับใครที่ไม่มีขวดแก้วแบบทึบ แนะนำให้ใช้กระดาษมาหุ้ม หรือนำไปวางในพื้นที่ที่แสงแดดสาดส่องไม่ถึง

2. เลี่ยงปัจจัยในการกระตุ้นการเสื่อมสภาพของเมล็ดกาแฟ

  • อากาศ เมล็ดกาแฟคั่วที่มีน้ำมันเคลือบผิวกาแฟ หากสัมผัสกับอากาศโดยตรงเป็นระยะเวลานาน จะทำให้กลิ่นหอมของกาแฟระเหย และรสชาติเปลี่ยนไป ฉะนั้นแล้วหากต้องใช้เมล็ดกาแฟคั่ว ให้ตักหรือเปิดใช้กาแฟเท่าที่พอใช้ และควรปิดฝาภาชนะทุกครั้งหลังการเปิดตักกาแฟ ไม่ควรเปิดฝาทิ้งไว้ เพราะจะทำให้เมล็ดกาแฟสัมผัสกับอากาศมากขึ้น ทำให้เสื่อมสภาพได้รวดเร็วยิ่ง และไม่ควรบดกาแฟทิ้งไว้ทีละมาก ๆ เพราะจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ให้สัมผัสกับอากาศมากยิ่งขึ้น

  • ความชื้น เมล็ดกาแฟมีคุณสมบัติในการดูดความชื้นและกลิ่นได้ดี ดังนั้นจึงไม่ควรนำเมล็ดกาแฟไปวางในพื้นที่ที่มีวามชื้นมาก ๆ เพราะหากเมล็ดกาแฟดูดซับกลิ่นและความชื้นเหล่านั้นแล่ว จะทำให้รสชาติและกลิ่นที่เปลี่ยนไปจากเดิม จึงไม่ควรที่จะเก็บเมล็ดกาแฟไว้ในตู้เย็น

  • แสงแดด ความร้อน แสงแดด ไม่ว่าจะเป็นจากแหล่งธรรมชาติหรือแม้แต่หลอดไฟ ก็สามารถส่งผลกระทบต่อเมล็ดกาแฟทำให้เก่าเร็วยิ่งขึ้น เช่น บนหลังเครื่องกาแฟ พื้นที่ติดหน้าต่างที่แดดส่องถึง ไม่ควรนำไปวางอย่างยิ่ง

3. ไม่ควรแช่ในช่องแช่เย็นปกติ

การเก็บเมล็ดกาแฟในตู้เย็น ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของหลาย ๆ คน ซึ่งวิธีที่ถูกต้องก็คือ ต้องนำเมล็ดกาแฟไปแช่ในช่องฟรีซหรือช่องแช่แข็งโดยควรแบ่งเป็นซอง และหากนำออกจากช่องฟรีซแล้ว ควรวางในอุณหภูมิห้องปกติก่อน 4-5 ชั่วโมง แล้วค่อยนำไปใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหยดน้ำที่ผิวเมล็ดกาแฟ และควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่งในการแช่ช่องเย็นปกติ เพราะเมล็ดกาแฟจะดูดซับความชื้น ดูดกลิ่นอาหารที่แช่ไว้นั่นเอง แต่ทั้งนี้แม้ว่าการแช่เมล็ดกาแฟในช่องฟรีซจะช่วยยืดอายุได้ แต่ก็อาจจะทำให้เมล็ดกาแฟสูญเสียคุณภาพไปบางส่วนได้เช่นกัน



ดู 143 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Komentáře


bottom of page